1. อ้วนเพราะกรรมพันธุ์
   บางคนสงสัยว่า ทำไมเป็นพี่น้องกันแท้ๆ พี่ยิ่งอ้วนขึ้นๆ แต่น้องสาวกลับผอมลงๆ ทุกวัน ความอ้วนที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์นี้ อาจจะเกิดมาจากการที่ คุณพ่อหรือคุณแม่เป็นคนอ้วนอยู่ก่อนแล้ว จึงเป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้ลูกที่เกิดมา มีเชื้อความอ้วนติดมา เป็นกรรมพันธุ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าลูกที่เกิดมาทุกคนจะต้องอ้วนทุกคน เพราะเราต้องศึกษาจากโครโมโซมที่ได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อแม่อีกด้วย หรือสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้พี่นอ้งมีรูปร่างต่างกัน คือ อุปนิสัยการรับประทาน หรืออาหารที่ชอบรับประทาน ไม่เหมือนกัน อย่างเช่น พี่ชอบทานกล้วยแขกทอด หรือข้าวมันไก่ เป็นชีวิตจิตใจ แต่น้องชอบรับประทานผลไม้ หรือส้มตำ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบสารอาหารที่พี่น้องสองคน รับประทานแล้ว นับว่าสารอาหารที่ได้รับนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน คนพี่ที่ชอบรับประทานกล้วยแขกและข้าวมันไก่ ซึ่งลองคำนวณพลังงาน(มีหน่วยเป็นแคลอรี่) นั้นอาหารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารอาหารประเภทไขมันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะให้พลังงานสูง จำนวนแคลอรี่นั้นมีมาก แต่สำหรับคนน้องนั้น จะรับประทานแต่อาหารจำพวกผักและผลไม้ ซึ่งผักและผลไม้นี้เป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเหมือนกัน ซึ่งโอกาสที่น้องจะมีพลังงานเหลือใช้สะสมไว้ ในรูปไขมันนั้นก็น้อย ก็เลยทำให้น้องมีรูปร่างที่สวยงามและสมส่วนมากกว่าพี่ เพราะฉะนั้นจึงเห็นว่ากรรมพันธุ์อย่างเดียวก็ไม่สามารถทำให้คนเราอ้วนได้เสมอไป แต่อุปนิสัยการรับประทาน จะมีส่วนมากกว่า  และก็เป็นที่น่าแปลกใจที่คนอ้วนส่วนใหญ่ มักจะชอบรับประทานอาหารมันๆ หรืออาหารประเภทแป้ง และการทอดน้ำมัน การที่คนอ้วนลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้น ก็คงจะต้องปรับพฤติกรรมการรับประทาน เสียใหม่ จากที่ชอบทานของทอดของมันก็หันมารับประทานผลไม้ หรือผักสดกันดีกว่า ตอนแรกๆ เราอาจจะไม่ค่อยชอบทานเท่าไหร่ แต่ถ้าเราเริ่มฝึกทานไปเรื่อยๆ เริ่มวันละนิด วันละหน่อย เราก็มีความรู้สึกชอบขึ้นมาแน่นอน ซึ่งการลดความอ้วนประเภทที่ปรับเปลี่ยนอาหารการกินนี้ จะต้องไม่เป็นคนที่ใจร้อน เพราะช่วงนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนถึงจะเห็นผลได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะกลับมาอ้วนอีก เชื่อเถอะว่าถ้าปรับพฤติกรรมการรับประทานแล้ว เราจะกลับกลายเป็นคนละคนเลยทีเดียว    นอกเหนือจากอาหารที่รับประทานแล้ว อย่าลืมเรื่องเครื่องดื่ม ที่ชื่นชอบอีกด้วย  สรุปได้ว่า กรรมพันธุ์มีส่วนในการกำหนดรูปร่างของเรา เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดอย่างที่ต้องการ แต่คงจะต้องพิจารณาลักษณะ การรับประทานอาหารด้วย เพราะการรับประทานอาหาร นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดรูปร่าง ว่าอ้วนหรือผอมนั่นเอง

2. อ้วนเพราะเลิกสูบบุหรี่
    การเลิกสูบบุหรี่นับว่า เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ในช่วงที่กำลังสูบบุหรี่ อยู่นั้น เราจะไม่มีความรู้สึกอยากรับประทานอาหารเลย นั่นก็เพราะว่าบุหรี่ทำให้น้ำย่อยในกระเพาะลดลง ซึ่งก่อให้เกิดอาการเบื่ออาหาร บุหรี่เป็นส่งที่ให้โทษแก่ร่างกายอย่างเห็นได้ชัด นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาแล้ว บุหรี่ยังทำให้ประสาทสัมผัสในร่างกายเราเสื่อมโทรมลงอีกด้วย เมื่อสูบบุหรี่เข้าไปแต่ละครั้งก็จะเป็นการทำลายปอดให้ด้อยประสิทธิภาพลง นอกเหนือไปจากปอดแล้ว ยังมีผลไปอวัยวะส่วนอื่นๆ ในร่างกายอย่างเช่น หัวใจ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ ในควันบุหรี่มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "สารครีโนราเดคอล" ซึ่งเป็นอันตรายกับอวัยวะภายในร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งสารตัวนี้จะก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "น้ำลายเหนียว" อาการอย่างนี้จะก่อให้เกิด ความไม่อยากอาหารเพราะมีน้ำย่อยในต่อมอะดรีนอล ซึ่งทำหน้าที่ ควบคุมประมาณน้ำในร่างกายนั้น ลดน้อยลง และหน้าที่ของวิตามินซี นั้นคือ รักษาสมดุลในการเผาผลาญพลังงาน เพราะฉะนั้นร่างกายจึงทรุดโทรมเป็นโรคต่างๆ นานา หรือเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยในร่างกายเกิดเปราะง่าย ทีนี้อาจจะทำให้คนที่อยากจะเลิกสูบบุหรี่ กลับเกิดอาการกลัวความอ้วนเพราะรู้แล้วว่า ถ้าเลิกสูบบุหรี่ จะทำให้อ้วนขึ้นอย่างแน่นอน จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอะไรในการลดความอ้วน และเลิกสูบบุหรี่ไปพร้อมๆ กัน ลองสังเกตดูว่าตามปกติเวลาที่เรารับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เรามักอยากจะสูบบุหรี่ เพราะฉะนั้นเราจะใช้จุดนี้มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ถ้าคุณรับประทานอาหารประเภทจืดๆ หรือพวกผักสดและผลไม้ คุณจะรู้สึกไม่อยากสูบบุหรี่ อีกทางเลือหนึ่งก็คือ ให้คุณรับประทานผลไม้หรือดื่มผลไม้ รสเปรี้ยวบ่อยๆ ยิ่งบ่อยยิ่งดี คุณก็ย่ิงรู้สึกไม่อยากสูบบุหรี่หรือเมื่อสูบเข้าไปแล้วรสชาติของบุหรี่ จะไม่อร่อยก็จะไม่อยากสูบอีกต่อไปอีก ทั้งอาหารหรือเครื่องดื่มที่รับประทานเข้าไปนี้ ก็ยังเป็นอาหารที่ให้พลังงาน(แคลอรี่) ต่ำอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้ไม่อ้วน พูดได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวก็งานนี้แหละ

3. เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ที่มีส่วนทำให้อ้วน
    อาหารหรือเครื่องดื่มทุกชนิด ต่างก็ให้พลังงานแก่ร่างกายต่างกัน ซึ่งคงเคยได้ยินหน่วยของพลังงานที่สารอาหารให้แก่ร่างกายที่เรียกว่า แคลอรี่ อาหารต่างชนิดกันในปริมาณเท่ากัน แต่ให้พลังงานต่างกันอย่างเช่นอาหารประเภททอด จะให้พลังงานส฿ูง เพราะมีไขมันรวมอยู่ในอาหารมากส่วนเครื่องดื่มก็เช่นเดียวกัน เครื่อมดื่มที่ให้รสหวานก็ให้พลังงานสงวกว่าเครื่องดื่มที่มีรสชาติเปรี้ยวหรือจืด นอกจากนี้เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ ไม่ว่าจะผสมอยู่ในเครื่อมดื่มอื่นๆ ก็นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูงเช่นกัน

4. อ้วนเพราะสาเหตุมาจากนิสัยการรับประทาน
    สาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่เป็นตัวการในเรื่องความอ้วนเลยทีเดียวเพราะการรับประทานอาหาร เป็นการนำเอาแคลอรี่เข้าสู่ร่างกายโดยตรง และอย่างรู้ตัว บางคนรู้ทั้งรู้ว่า อาหารที่ชอบรับประทานอยู่นี้มีแคลอรี่สูง แต่ก็ยังรับประทานโดยทำเป็นไม่สนใจ แล้วก็มาเสียใจภายหลัง ซึ่งถ้าเราอยากจะมีรูปร่างที่ดี ก็ควรที่จะควบคุมการรับประทาน ของตัวเองให้อยู่ แต่ก้ไม่ใช่ว่าเป็นการอดอาหารหรืออย่างไร การเลือกรับประทานอาหาร ที่มีแคลอรี่ต่ำ ถ้าทานเป็นจำนวนพอเหมาะแบบอิ่มท้อง คุณก็ไม่รู้สึกหิวโหย หรือทุกข์ทรมานในการลดความอ้วนเลย แต่ถ้าอดอาหารร่างกายจะทรุดโทรม ไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกไม่สบายและทรมานสังขารตัวเอง ทำอย่างนี้คุณก็จะรู้สึกไม่ดี และไม่อดทนต่อการลดความอ้วนอีกต่อไป และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณไม่ประสบความสำเร็จ ในการลดความอ้วน และจะกลับกลายว่าคุณเป็นคนที่เกลียดตัวเองไปในที่สุด ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง หดหู่ และจะกลายเป็นคนเชื่องช้าไปในที่สุด

5. อ้วนเพราะทานยาลดความอ้วน
    การทานยาลดความอ้วนเป็นที่แพร่หลายอย่างยิ่งในหมู่สาวผู้ที่อยากมีหุ่นดี แต่การรับประทานยานั้น มีผลเสียต่อร่างกายโดยตรงเลยทีเดียว ปกติยาลดความอ้วนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ ยาที่ออกฤทธิ์ไปควบคุมความอยากอาหาร ในสมองของเราทำให้เราไม่อยากรับประทานอาหารทั้งๆ ที่ท้องหิว ส่วนผระเภทที่สองคือ ยาที่รับประทานเข้าไปแล้วรู้สึกอิ่มท้อง คืออื่มอยู่ตลอดเวลา พอทานอาหารอะไรเข้าไปจะรู้สึกอิ่มเร็ว